ปัญหาใหญ่สำหรับทุกคนคืออาการนอนไม่หลับ แม้ห้องนอนนั้นจะสวยหรู ดูดีแค่ไหน แต่ถ้านอนไม่หลับ ห้องนอนห้องนั้นก็แทบจะไร้ค่า เรื่องนอนไม่หลับนอกจากเป็นอาการและโรคที่หากมีอาการหนักจะแนะนำให้ไปพบแพทย์แล้ว ยังมีวิธีเบื้องต้นหลายๆ วิธีแนะนำให้กับคนหลับยาก เช่นการดื่มนมอุ่นๆ อ่านหนังสือ สวดมนต์ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเรื่องของสถานที่พักผ่อน หรือห้องนอนนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ Sanook! Home จึงอยากมาแนะนำเคล็ดลับการจัดห้องนอนสำหรับคนหลับยากให้ได้นอนหลับกันยาวๆ ไปแบบไม่ต้องนอนนับแกะกันอีกต่อไป

1.ตำแหน่งเตียงนอน เรื่องการวางเตียงในห้องนอนถือเป็นอีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เตียงนอนควรตั้งอยู่ในพื้นที่โปร่ง หัวเตียงควรเป็นผนังทึบ หลีกเลี่ยงการตั้งเตียงไว้ใต้คาน และเลี่ยงการตั้งเตียงนอนไว้ตรงประตูห้องนอน หรือห้องน้ำเนื่องจากอาจมีเสียงรบกวนจากห้องน้ำ นอกจากนี้สำหรับห้องที่มีเครื่องปรับอากาศควรเลี่ยงการตั้งเตียงไว้ตรงข้ามกับเครื่องปรับอากาศ เพราะความเย็นจากเครื่องปรับอากาศอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้นอน และหากต้องการติดเครื่องปรับอากาศในห้องนอนแนะนำให้ติดบริเวณข้างเตียงค่อนไปทางปลายเท้า

2.เลือกสีที่เหมาะสม สีที่เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอนคือสีโทนสบายตา สีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เช่นสีฟ้า สีเหลือง สีเขียว ซึ่งเคยมีงานวิจัยระบุว่าสีฟ้าเป็นสีที่ทำให้นอนหลับได้ยาวนานที่สุดถึง 7 ชั่วโมง 52 นาที

3.อากาศต้องมีความเหมาะสม ปรับอุณหภูมิห้องให้มีความเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันเครื่องปรับอากาศในบ้านเราสามารถตั้งอุณหภูมิได้แบบอัตโนมัติ โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการทำให้นอนหลับสบายคือประมาณ 25-28 องศาเซลเซียส

4.จัดระเบียบห้องนอน การจัดห้องนอนให้เป็นระเบียบนอกจากทำให้ห้องนอนดูน่านอนแล้ว ความเป็นระเบียบของห้องนอนยังสร้างพลังงานที่ดีให้กับห้องนอน เพราะเมื่อห้องนอนเป็นระเบียบแล้วจะทำให้เกิดการถ่ายเทอากาศภายในห้องนอนได้เป็นอย่างดี ไม่ทำให้เจ้าของห้องมีปัญหาเรื่องสุขภาพ

5.ให้ความสำคัญเรื่องแสง ความมืดเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลานอน ดังนั้นเราควรทำให้ห้องมีแสงสว่างน้อยที่สุด แม้แต่แสงจากจอทีวีก็ไม่ควรมี และในปัจจุบันหลายคนชอบเล่นโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอน จะบอกว่าแสงจากโทรศัพท์มือถือแม้จะเป็นแสงสว่างที่ไม่จ้ามาก แต่ก็ไม่ควรกำจัดออก แต่ก็มีบางคนที่ไม่ชอบความมืด ดังนั้นอาจเลือกใช้โคมไฟที่มีแสงสลัวๆ เปิดไว้แทนก็ได้

6.กำจัดเสียงรบกวนภายในห้องนอน ภายในห้องนอนไม่ควรมีเสียงรบกวน เพราะความสงบทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสบายมากกว่า แต่ก็มีเสียงบางประเภทที่อาจช่วยเยียวยาคนที่ไวต่อเสียง เช่นเสียงเพลงบรรเลง รวมไปถึงการเลือกใช้เตียงหรือที่นอนที่ลดแรงสั่นสะเทือนก็เป็นการช่่วยลดการเกิดเสียงรบกวนภายในห้องนอนลงได้

7.สร้างกลิ่นที่ผ่อนคลายภายในห้องนอน กลิ่นหอมช่วยเพิ่มความผ่อนคลายให้กับผู้ที่ต้องการพักผ่อน ซึ่งกลิ่นแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เช่นกลิ่นมะลิกลิ่นลาเวนเดอร์ ซึ่งเป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยม แต่ถ้าคุณมีกลิ่นที่คุณชอบและทำให้รู้สึกผ่อนคลายก็สามารถเลือกใช้กลิ่นนั้นแทนได้