9 เคล็ดลับ “การตรงต่อเวลา” สำหรับคนที่ชอบสายประจำ!

คุณจำกระต่ายขาว (White Rabbit) จาก Alice’s Adventures in Wonderland ที่ชอบพูดว่า “ตายแล้วๆ ฉันจะต้องสายแน่ๆ” ได้ไหม? เมลิซซา บัลเมน (Malissa Balman) นักหนังสือพิมพ์และนักเขียนแนวตลกชาวอเมริกันกล่าวว่า หากนำหูยาว ๆ ของมันออกไปแล้วเปลี่ยนคำว่า “ตายแล้ว” เป็นคำที่หยาบคายกว่านั้นล่ะก็ นี่แหละคือตัวของเธอดี ๆ นี่เอง บัลเมนเองก็เบื่อกับนิสัยสายเสมอของเธอเต็มทน เพราะนอกจากมันจะทำให้เครียดและรน หรือทำให้คนอื่นไม่พอใจแล้ว มันยังทำให้เธอดูเหมือนคนเสแสร้งแกล้งทำด้วย

เธอกล่าวว่า เราจะเร่งคนอื่นให้เร่งรีบได้อย่างไรกันล่ะ ในเมื่อตัวเราเองยังเอาตัวเองไม่รอดเลย ชีวิตของเธอรายล้อมไปด้วยคนที่ตื่นเช้าเป็นนิสัยอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ญาติพี่น้อง คนรู้จักของญาติ ครูอาจารย์ นักข่าว นักพูด และอีกมากมาย ซึ่งพวกเขาได้ให้ 9 คำแนะนำและเทคนิคดี ๆ ที่จะกำจัดนิสัยสายประจำนี้ได้ ไปชมกัน!

1. ให้ความสำคัญกับการตรงต่อเวลา

มาร์ลา โจ ฟิชเชอร์ นักรายงานข่าวหญิงชาวแคลิฟอเนียร์ เพื่อนของบัลเมน กล่าวว่า “คุณก็แค่ต้องตัดสินใจทำนั่นแหละ” เธอเคยเป็นคนหนึ่งที่ไม่ตรงต่อเวลามากและเกือบจะตกเครื่องไปไม่ทันงานแต่งของน้องชายตัวเองหากเครื่องไม่ล่าช้าซะก่อน

2. หลอกตัวเอง

รูธ อี. ธัลเลอร์ คาร์เตอร์ นักเขียนชาวนิวยอร์ค กล่าวว่า “เหตุผลที่ฉันไปถึงที่หมายก่อนเวลาที่กำหนดเสมอ ก็เป็นเพราะว่าฉันเขียนเวลานัดหมายลงในปฏิทินเร็วกว่ากำหนด 15 นาทีเสมอนั่นเอง”

3. ตระหนักเสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนใช้เวลา ไม่ว่าจะการเตรียมตัวหรือการเดินทาง

 

คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยตระหนักว่าสิ่งต่าง ๆ ต้องใช้เวลา ทั้งการอาบน้ำ แต่งตัว และอีกมากมาย ลองตื่นมาแล้วจับเวลาที่คุณใช้ไปทั้งหมดในการเตรียมตัวดูสิ คุณจะต้องตะลึงเป็นแน่

4. จัดของให้เป็นที่เป็นทาง

คุณควรเก็บข้าวของของคุณให้เป็นที่เป็นทาง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือกุญแจรถก่อนออกจากบ้าน คุณจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลากับการเดินวนหามันอีก จริงไหมล่ะ ว่าหลาย ๆ คนก็เป็นแบบนั้น?

5. เตรียมตัวให้พร้อมเสมอ

ก่อนถึงวันนัดหมาย หรือกิจกรรมอะไรก็ตาม คุณควรเตรียมของทุกอย่างที่ต้องใช้ เช่น แผนการ กำหนดเวลา หรือรายงานต่าง ๆ ไว้ให้เรียบร้อย

6. ควรเริ่มออกเดินทางก่อนเวลา โดยเผื่อเวลาหากเกิดสิ่งผิดพลาดไว้ด้วย

‘ปัญหารถติด’ และ ‘การหลงทาง’ เป็นปัญหาที่คนมักประสบพบเจอเสมอ อย่างที่ เทอร์รี่ เกริสต์ กล่าวว่า “ถ้าคุณมีลูกหรือต้องเดินทางกับเด็กๆ จำไว้เลยว่าควรออกจากบ้านเผื่อเวลาในการเกิดข้อผิดพลาดไว้สักสามเรื่องได้เลย”

7. ควรทำให้ ‘การมาสาย’ เป็นเรื่องน่าละอาย

เอลเดน คาร์นาฮาน เคยกล่าวว่า “ผมมักจะทำให้มันเป็นเรื่องน่าโมโหหรือหงุดหงิดเสมอ เวลาที่คนอื่นมาสาย เพื่อให้ตัวผมเองไม่กล้าที่จะสายแบบนั้น”

8. ถามตัวเองว่า “ทำไมคุณถึงสายเสมอ?”

นักจิตวิทยากล่าวว่า การมาสายสะท้อนให้เห็นปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็น สมาธิสั้น การแสวงหาความตื่นเต้น และชีวิตการทำงานที่ไม่มีความสุข การเข้าใจต้นตอสาเหตุของการมาสายอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองหลายด้านเพื่อลดละนิสัยดังกล่าว

สำหรับ เมลิซซา บัลแมน ปัญหาหลักเลยก็คือ การกังวลกับสิ่งที่ต้องทำ เธอมักจะย้ำคิดย้ำทำถึงสิ่งที่ต้องทำก่อนออกจากบ้าน ซึ่งมันก็นำไปสู่เคล็ดลับที่เธอชื่นชอบมากที่สุดในข้อต่อไป

9. ลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำ

แทนที่จะมัวมาทำสิ่งต่าง ๆ ในนาทีสุดท้าย ก่อนออกไปไหนก็ตามคุณควรวางแผนและจัดลำดับทำสิ่งต่าง ๆ ล่วงหน้า พยายามออกเดินทางก่อนเวลา หรือค่อยมาทำสิ่งไม่จำเป็นตอนที่คุณถึงที่หมายแล้ว เช่น ตอบแชท ตอบอีเมล์ หรือคุยโทรศัพท์ ซึ่งสิ่งที่มีผลต่อบัลเมนจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่คำแนะนำจากการปรึกษาคนอื่น ๆ เท่านั้น แต่กลับเป็นความละอายใจต่อการมาสายที่เกิดขึ้นในใจของเธอเอง

“การตรงต่อเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการขับเคลื่อนสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ” เฮนรี่ มิลเลอร์ เพื่อนของเธอกล่าว นอกจากนี้ เดนนิส โฟลีย์ ผู้มองว่าการมาสายเหมือนเป็นการผิดคำสัญญา ก็กล่าวทำนองเดียวกันว่า “ผมคิดว่าผมอยากให้ทุกคนรู้จักผมในฐานะคน ๆ หนึ่งที่เชื่อถือได้เช่นกัน”

“เวลาของเราไม่ได้มีค่าไปกว่าเวลาของคนอื่น การไม่เบียดเบียนเวลาของคนอื่นจึงถือเป็นมารยาทที่สำคัญอย่างหนึ่ง”