เคยสังเกตสีของ ‘ปัสสาวะ’ กันหรือเปล่า
เคยสังเกตสีของ ‘ปัสสาวะ’ กันหรือเปล่าว่าในแต่ละวัน
สีเป็นอย่างไร มันเหมือนหรือแตกต่างกับคนทั่วไป
สีแบบไหนที่อันตรายและสีแบบไหนถึงปลอดภัย
โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราจะขับปัสสาวะออกมาประมาณ หนึ่งลิตรครึ่งต่อวัน จะมีสีเหลืองใส หรือสีเหลืองฟางข้าวอาจเข้มหรืออ่อนกว่านั้นได้ตามปริมาณน้ำที่ทานเข้าไป ทานน้ำมากก็จะทำให้ปัสสาวะสีใสขึ้น ทานน้ำน้อยก็จะทำให้สีปัสสาวะเข้ม ถ้าใครมีสีตามนี้ แสดงว่าคุณยังสุขภาพแข็งแรงดี…แต่สำหรับใครที่มีสีต่างไปจากนี้ เราคงต้องมาเช็คกันหน่อยแล้ว
คนเราเมื่ออายุเข้าเลข 3 ก็ควรที่จะไปตรวจสุขภาพประจำปี สักปีละครั้ง เพื่อที่จะทำให้เราสามารถรู้ได้ไวและรักษาได้เร็ว หากเริ่มมีอาการบางอย่างที่ผิดปกติ อย่างในสหรัฐอเมริกาเขาแนะนำให้วัยรุ่นเริ่มตรวจสุขภาพประจำปีกันตั้งแต่อายุ 20 ปีเลยทีเดียว ไม่ต้องรอให้แก่เพราะเดี๋ยวจะไม่ทันกาล
ซึ่งการตรวจสุขภาพนั้นจะทำให้เรารู้ความเสี่ยงของโรคได้ด้วยวิธีการตรวจแบบคัดกรองโรค ประกอบด้วย การตรวจเลือด การเอกซเรย์ปอด การทำคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง การตรวจปัสสาวะและอุจจาระ
สำหรับคนที่มีสีปัสสาวะที่ต่างจากสีปกติ แล้วสีไหนล่ะที่เริ่มไม่ปลอดภัย?
ในกรณีที่คุณพบว่าปัสสาวะของตนเองมักมีสีเหลืองเขียวเข้มทุกครั้ง แม้จะดื่มน้ำมากแค่ไหน สีน้ำปัสสาวะก็ไม่จางลง นั่นแสดงว่าคุณอาจมีอาการของดีซ่านอยู่ ซึ่งอาจเป็นโรคตับอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ หรืออื่น ๆ ก็ได้ โรคพวกนี้มักจะมีอาการตาเหลือง ตัวเหลืองควบคู่ไปด้วย
สีเหลืองอำพัน (ออกแดง) ปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลดำ คือ ปัสสาวะที่ถ่ายออกมาแล้วมีสีเหมือนน้ำโคล่า มักเกิดจากสารสีของเม็ดเลือดแดง (hemoglobin) หรือ สารสีของกล้ามเนื้อลาย (myoglobin) โดยทั่วไปไม่ได้เกิดจากภาวะเลือดออกในทางเดินปัสสาวะ แต่เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดง หรือของกล้ามเนื้อลายในร่างกาย ทำให้สารสีดังกล่าวถูกแปรสภาพและขับถ่ายออกมาในปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลดำนั่นเอง
สีขาวขุ่น กลุ่มนี้ก็ต้องระวัง การที่ปัสสาวะสีขุ่นออกขาว เป็นไปได้ว่าจะมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ควรสังเกตตนเองเกี่ยวกับเรื่องอาการไข้ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องน้อย ปวดหลัง เป็นต้น
สีน้ำล้างเนื้อ คือ ปัสสาวะที่มีเลือดผสมอยู่อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน จะมีสีแดงเรื่อๆ สีมักจะเหมือนกันตั้งแต่เริ่มถ่ายจนถ่ายสุด และถ้าทิ้งไว้หลายๆ ชั่วโมงอาจเห็นตะกอนสีแดงๆ (เม็ดเลือดแดง) นอนก้น ได้ มักเกิดจากเนื้อไตอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื้องอก หรือเป็นนิ่วของทางเดินปัสสาวะ
สีทุกสีที่กล่าวมาเบื้องต้นนี้ หากคุณมีอาการ คงไม่ต้องรอให้ใครมาเตือนว่า ถึงเวลาแล้วที่คุณควรไปพบแพทย์ เพราะการตรวจดูสีปัสสาวะด้วยตนเองเป็นแค่เพียงวิธีเบื้องต้น ไม่สามารถบอกโรคหรือความเสี่ยงต่อโรคทั้งหมดได้ ทางที่ดีควรเลือกตรวจสุขภาพประจำปี ตามเกณฑ์ต่างๆในแต่ละช่วงอายุควบคู่ไปด้วย เพราะจะทำให้เรารู้ได้ก่อนโดยไม่ต้องรอให้สีปัสสาวะเริ่มบอกเรา
ท้ายนี้ขอฝากเคล็ดลับสุขภาพดีๆ สำหรับทุกคนไว้ว่า คนเราดื่มน้ำเปล่าให้ได้ราวๆ 1,500-2,000 มิลลิลิตร หรือ 6-8 แก้วต่อวัน หรือถ้ากลัวลืมก็เอาขวดลิตรมาตั้งไว้บนโต๊ะ 1 ขวด แล้วค่อยๆ จิบ เตือนตัวเองว่าต้องดื่มให้หมด
หรือใช้แอพพลิเคชั่นตั้งปลุกเตือนความจำกันซะเลย สมัยนี้มีแอพฯ ที่ช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราก็ควรเอาเทคโนโลยีมาช่วยให้มีสุขภาพที่ดีไปพร้อมๆกันซะเลย
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Marketeer Online